Logo
TH | EN

Webboard

Member Information
Message
Company name
Phone number -
Country

ทำไมซีรีส์เกาหลีถึงกลายเป็นมากกว่าความบันเทิงธรรมดาในใจผู้ชม

ทำไมซีรีส์เกาหลีถึงครองใจคนดูแบบถอนตัวไม่ขึ้น

ซีรี่ย์เกาหลี เนี่ยนะ ถ้าจะพูดถึงข้อดีแบบคนดูจริงๆ ยกตัวอย่าง series469 ไม่ใช่แค่อ่านปกหลังกล่องแล้วเดา มันมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากซีรีส์ประเทศอื่นเลย เอาแค่บรรยากาศก่อนเลย อย่างเกาหลีเนี่ย เขามีความเก่งในการสร้างโลกเล็กๆ ขึ้นมาให้เราอินได้ภายในไม่กี่ตอน คือไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กที่มีคาเฟ่น่ารัก ร้านข้าวต้มสุดอบอุ่น หรือแม้แต่บริษัทสุดเคร่งขรึม เขาก็ทำให้มันดูมีชีวิตชีวา จนเรารู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนบ้านของตัวละครไปเลยโดยไม่รู้ตัว อีกอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ การเล่าเรื่องที่ “จับใจ” มากๆ มันไม่ได้แค่เล่าชีวิตรักของพระนางนะ แต่มันล้วงลึกไปถึงครอบครัว ความฝัน ความกลัว ความผิดหวัง มันเหมือนเรากำลังดูชีวิตของคนจริงๆ ไม่ใช่แค่ละครน้ำเน่า คือมันมีจังหวะให้เราหัวเราะตาม ร้องไห้ตาม หรือแม้แต่หงุดหงิดจนอยากเข้าไปเขย่าตัวละครให้รู้เรื่องกันซะที แล้วเรื่องนักแสดงนะ โอ้โห! เคมีดีแบบไม่หายใจหายคอ ไม่ว่าจะเป็นสายหวาน สายร้าย สายซื่อบื้อ หรือสายบู๊ เขาก็คัดมาแล้วว่าคู่นี้ต้องมีประกายบางอย่างที่เวลาอยู่ด้วยกันแล้วมันสะกิดใจคนดูได้จริงๆ แบบไม่ต้องพยายามมาก มันลื่นไหลธรรมชาติจนเหมือนเขารู้จักกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ดูแล้วอินไม่รู้ตัว นี่ยังไม่นับการแสดงที่กินใจมาก คือร้องไห้กันทีน้ำตามาแบบไม่ต้องบีบมุมกล้อง

อีกอย่างที่ต้องยอมรับคือเพลงประกอบ ซีรีส์เกาหลีเขารู้จริงเรื่องนี้ เพลงที่ใส่มาแต่ละฉากมัน “พอดี” ชนิดที่เราได้ยินแค่โน้ตแรกก็รู้เลยว่าใครกำลังจะอกหัก หรือกำลังจะได้จูบแรก เพลงมันเป็นมากกว่าแค่เสียงแบ็คกราวด์ มันกลายเป็นส่วนนึงของอารมณ์โดยรวมไปเลย ฟังทีหลังยังนึกถึงฉากในเรื่องได้เป๊ะๆ ทั้งที่ผ่านไปนานแล้ว ความละเอียดในการเล่าเรื่องก็เป็นอีกอย่างที่น่าชื่นชม ไม่มีตัวประกอบคนไหนโผล่มาแล้วหายไปอย่างไร้ความหมาย ทุกตัวละครมีเหตุผล มีเส้นเรื่องของตัวเอง บางทีตัวรองยังเด่นจนขโมยซีนพระเอกนางเอกไปเฉยเลย คือมันทำให้เรารู้สึกว่าโลกของซีรีส์มันกว้างใหญ่ มีมิติมากกว่าสิ่งที่เรากำลังโฟกัสอยู่ ทำให้ดูจบแล้วยังอยากกลับไปดูใหม่อีกรอบเพื่อเก็บรายละเอียดที่อาจพลาดไป อีกอย่างที่ต้องพูดถึงคือวิธีที่เขาพูดถึงสังคม ซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องไม่กลัวที่จะยกประเด็นหนักๆ มาพูด ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำทางสังคม ระบบการศึกษา ความกดดันในครอบครัว หรือแม้แต่ความไม่ยุติธรรมในที่ทำงาน เขาเอามาเล่าผ่านตัวละครอย่างมีชั้นเชิง ไม่สอน ไม่บังคับ แต่ชวนให้คิด เหมือนคนเขียนบทเขาอยากพูดอะไรบางอย่างกับสังคมจริงๆ ไม่ใช่แค่สร้างความบันเทิงเฉยๆ ที่อยากพูดแบบคนดูที่ติดซีรีส์จนตาแฉะคือ ความต่อเนื่องกับการเปลี่ยนแปลงของซีรีส์เกาหลี มันไม่ย่ำอยู่กับที่ เขากล้าลองแนวใหม่ๆ กล้าผสมหลายแนวในเรื่องเดียว เช่น ดราม่าที่มีไซไฟซ่อนอยู่ หรือคอมเมดี้ที่แฝงด้วยความลึกลับ พอคนดูเริ่มเดาได้ เขาก็เปลี่ยนเกมไปอีกแบบ มันทำให้เราไม่มีวันเบื่อ รู้สึกเหมือนได้ผจญภัยใหม่ทุกครั้งที่กดดูตอนแรก ทั้งหมดนี่ไม่ได้พูดเพราะอยากให้ใครไปดูตามนะ แต่เพราะรู้สึกจริงๆ ว่าซีรีส์เกาหลีมันมีอะไรให้ค้นหาเยอะมาก ไม่ใช่แค่เรื่องรักใสๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด แต่คือภาพสะท้อนชีวิตในหลายแง่มุมที่ดูแล้ว “ได้อะไรกลับมา” มากกว่าความฟินแน่นอน.

 

© 2021 TGJTA All Rights Reserved.