.png)
ปลดล็อกศักยภาพการแข่งขัน: การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 01.5) สำหรับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย
เสริมสร้างความแข็งแกร่งจากรากฐานภาษี สู่การเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีโลก
ในยุทธศาสตร์การผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก (Jewelry Hub) นโยบายภาครัฐถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน หนึ่งในเครื่องมือเชิงนโยบายที่ทรงพลังที่สุดสำหรับผู้ประกอบการคือ "สิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าอัญมณี" ผ่านแบบคำขอ ภ.พ. 01.5 ซึ่งมิใช่เป็นเพียงการลดภาระทางภาษี แต่คือปัจจัยเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยเสริมสภาพคล่องและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในเวทีสากล
สิทธิประโยชน์หลักที่ผู้ประกอบการจะได้รับ คือ:
กระบวนการ 3 ขั้นตอนสำคัญ เพื่อการเตรียมความพร้อมและยื่นขอสิทธิประโยชน์ ภ.พ. 01.5 อย่างถูกต้องและมั่นคง
ขั้นที่ 1: การวางรากฐานทางกฎหมาย (การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ก่อนการขอรับสิทธิประโยชน์ใดๆ สถานะทางกฎหมายขององค์กรคือรากฐานที่สำคัญที่สุด ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีสถานะเป็น "ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม" ตามประมวลรัษฎากรอย่างสมบูรณ์เสียก่อน ซึ่งดำเนินการผ่านการยื่นแบบ ภ.พ. 01
ขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนการแสดงตนอย่างเป็นทางการต่อหน่วยงานภาครัฐ สะท้อนถึงความโปร่งใสและความพร้อมในการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบกฎหมายของประเทศ ซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ
ผู้ประกอบการที่เข้าเกณฑ์:
การจดทะเบียน VAT คือประตูบานแรกที่ยืนยันการดำเนินธุรกิจอย่างมีมาตรฐาน และเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ภาครัฐให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมฯ
ขั้นที่ 2: การบูรณาการสู่มาตรฐานอุตสาหกรรม (การเป็นสมาชิกองค์กรการค้า)
เงื่อนไขในขั้นตอนนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของภาครัฐที่ส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีการกำกับดูแลและสร้างมาตรฐานกันเอง (Self-regulation) การที่ผู้ประกอบการเป็นสมาชิกของสมาคมการค้าที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ คือเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณและเป็นไปตามมาตรฐานสากล
การเป็นสมาชิกของ สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ (TGJTA) ไม่เพียงแต่เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นตามระเบียบ แต่ยังเป็นการแสดงจุดยืนว่าธุรกิจของท่านพร้อมที่จะ:
สถานะการเป็นสมาชิก คือการยืนยันว่าธุรกิจของท่านไม่ได้ดำเนินงานอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ
ขั้นที่ 3: การพิสูจน์ความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของกิจการ (Due Diligence จากภาครัฐ)
นี่คือขั้นตอนสุดท้ายและสำคัญที่สุด ซึ่งกรมสรรพากรจะดำเนินการตรวจสอบสถานประกอบการ (Site Visit) เพื่อประเมิน "ความมั่นคงและน่าเชื่อถือ" ของธุรกิจในเชิงกายภาพและการดำเนินงานจริง เกณฑ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อคัดกรองและมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการที่มีตัวตนและดำเนินธุรกิจอย่างสุจริตเท่านั้น
ปัจจัยที่กรมสรรพากรใช้ในการประเมินประกอบด้วย:
|
เกณฑ์การพิจารณา |
สิ่งที่สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและความมั่นคง |
|
สถานประกอบการที่ชัดเจน |
มีที่ตั้งสำนักงานหรือโรงงานเป็นหลักแหล่ง สามารถตรวจสอบและเข้าถึงได้จริง ไม่ใช่เพียงที่อยู่ตามเอกสาร (Paper Company) |
|
ประวัติการชำระภาษี |
มีประวัติการยื่นแบบและชำระภาษีที่ถูกต้อง ไม่เคยมีประวัติหลีกเลี่ยงภาษี หรือมีหนี้ภาษีอากรคงค้าง |
|
การดำเนินธุรกิจจริง |
มีร่องรอยการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น การจ้างงาน, สต็อกสินค้า, หรือสายการผลิตที่สามารถตรวจสอบได้ |
กระบวนการตรวจสอบนี้ ถือเป็นมาตรการประกันคุณภาพที่ภาครัฐใช้เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางธุรกิจ ยืนยันว่าผู้ที่ได้รับสิทธิประโยชน์คือผู้ประกอบการตัวจริง ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมอัญมณีไทยโดยรวม
การขออนุมัติแบบ ภ.พ. 01.5 เป็นกระบวนการเชิงกลยุทธ์ที่มากกว่าเรื่องทางเอกสาร แต่เป็นการวางรากฐานธุรกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและความโปร่งใส ผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์ทั้ง 3 ข้อ คือ
1) การจดทะเบียน VAT,
2) การเป็นสมาชิกองค์กรการค้า,
3) การพิสูจน์ความมั่นคงของกิจการ จะได้รับการยอมรับจากภาครัฐว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมในการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จ
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ (เบื้องต้น):
สถานะ ภ.พ. 01.5 คือสินทรัพย์ที่ทรงคุณค่า เป็นเครื่องหมายแห่งความน่าเชื่อถือ และเป็นใบเบิกทางสู่โอกาสมหาศาลในตลาดโลก การลงทุนลงแรงเพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง คือการลงทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจท่านในฐานะส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยชั้นนำ
เมื่อจัดเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ให้ยื่นคำขอได้ที่:
ขั้นตอนการดำเนินการ:
หากอนุมัติ ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิ์ยกเว้น VAT ตั้งแต่วันที่อนุมัติเป็นต้นไป
สิทธิ์การยกเว้น VAT ครอบคลุม วัตถุดิบที่ยังไม่ประกอบเป็นเครื่องประดับ เท่านั้น
1. อัญมณี (Gemstones): เพชร พลอย (เช่น ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก) ไข่มุก และของเทียมในลักษณะเดียวกัน
2. โลหะมีค่า (Precious Metals): ทองคำขาว (Platinum), ทองขาว (White Gold), เงิน (Silver), พาลาเดียม (Palladium)
ข้อจำกัดสำคัญ: หากวัตถุดิบถูกนำไปแปรรูปเป็นของรูปพรรณ เช่น แหวน สร้อย ต่างหู จะไม่อยู่ในเกณฑ์การยกเว้น
|
สินค้า |
สถานะการยกเว้น |
หมายเหตุ |
|
เพชรร่วงเจียระไน |
ได้รับ |
ถือเป็นวัตถุดิบ |
|
แหวนเพชร |
ไม่ได้รับ |
ประกอบเป็นของรูปพรรณแล้ว |
|
เม็ดเงินบริสุทธิ์ (Silver Grain) |
ได้รับ |
ถือเป็นวัตถุดิบ |
|
สร้อยคอเงิน |
ไม่ได้รับ |
ประกอบเป็นของรูปพรรณแล้ว |
|
พลอยร่วง |
ได้รับ |
ถือเป็นวัตถุดิบ |
|
ต่างหูไข่มุก |
ไม่ได้รับ |
ประกอบเป็นของรูปพรรณแล้ว |
การได้รับสิทธิ์ ภ.พ. 01.5 คือมากกว่าการลดภาระภาษี แต่คือ การลงทุนด้านความน่าเชื่อถือและมาตรฐานธุรกิจ ที่เปิดประตูสู่โอกาสการค้าในระดับโลก ผู้ประกอบการที่ผ่านขั้นตอนนี้ไม่เพียงได้รับการยอมรับจากรัฐ แต่ยังสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน
สถานะ ภ.พ. 01.5 คือเครื่องหมายแห่งคุณภาพ ที่ยืนยันว่าธุรกิจของคุณคือส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่มีมาตรฐานและศักยภาพสู่เวทีสากล
สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย
ในยุคที่ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับมีการแข่งขันสูง การเข้าถึงเครื่องมือและเงินทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพและขยายตลาดถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโต โครงการ SMEs Pro-active และ โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS 2 โครงการเรือธงจากภาครัฐที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยคนส
ปัจจุบันคุณค่าของอัญมณีไม่ได้วัดกันที่ความงามภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเรื่องราวที่มาอันบริสุทธิ์และโปร่งใส การจัดหาอย่างมีจริยธรรม (Ethical Sourcing) ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่สำคัญ