Logo
TH | EN

เทคนิคการดูเพชรแท้ตามมาตรฐานสากล: ความรู้จากสมาคม TGJTA

เพชร อัญมณีที่เปรียบดั่งราชาและเป็นที่สุดแห่งความปรารถนา ไม่เพียงแต่มีมูลค่าสูง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความงามอันเป็นนิรันดร์ ในฐานะสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ (TGJTA) เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมอัญมณีให้ทัดเทียมนานาชาติ บทความนี้จึงได้รวบรวมเทคนิคการสังเกตและระบุเพชรแท้เบื้องต้น โดยอ้างอิงจากหลักการและองค์ความรู้ทางอัญมณีศาสตร์สากล เพื่อให้ท่านสามารถประเมินเพชรได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยตาเปล่าและอุปกรณ์ขยาย 10 เท่า (10x Loupe) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญคู่กายของผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก

1. สัญญาณบ่งชี้จากตาเปล่า: ความวาวและประกายที่เป็นเอกลักษณ์

ก่อนจะใช้เครื่องมือใดๆ ผู้เชี่ยวชาญในระดับสากลจะเริ่มต้นด้วยการสังเกตด้วยตาเปล่า ซึ่งมีสองคุณสมบัติหลักที่เพชรแท้จะแสดงออกมาอย่างโดดเด่น

  • ความวาวแบบเพชร (Adamantine Luster): เพชรแท้มีพื้นผิวที่สามารถสะท้อนแสงกลับได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เกิดความวาวที่สว่างเจิดจ้าและคมชัดเป็นพิเศษ ในทางอัญมณีศาสตร์เรียกความวาวลักษณะนี้ว่า "Adamantine Luster" ซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะที่มาจากคำว่า "Diamond" นั่นเอง ความวาวระดับนี้หาได้ยากในอัญมณีชนิดอื่นและเป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกถึงความเป็นเพชร

  • ประกายและรุ้ง (Fire or Dispersion): เมื่อแสงขาวส่องผ่านเข้าไปในเพชร เพชรจะทำหน้าที่เหมือนปริซึมคุณภาพสูง แยกแสงนั้นออกเป็นสีรุ้งต่างๆ แล้วสะท้อนกลับออกมาเป็นประกายหลากสีสัน (Flashes of spectral colors) ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า "การกระจายแสง" (Dispersion) ซึ่งเพชรมีการกระจายแสงที่สูงมาก ทำให้เกิด "ประกายและรุ้ง" ที่งดงามและชัดเจน ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้อัญมณีเลียนแบบส่วนใหญ่ไม่สามารถเทียบเคียงได้


2. มองให้ลึกขึ้นด้วย Loupe 10x: เทคนิคของผู้เชี่ยวชาญ

Loupe ขนาดกำลังขยาย 10 เท่า คือเครื่องมือมาตรฐานที่ผู้ค้าอัญมณีทั่วโลกใช้ในการตรวจสอบคุณภาพ การมองผ่าน Loupe จะช่วยให้เราเห็นรายละเอียดที่ตาเปล่าไม่สามารถมองเห็นได้

  • ความคมของเหลี่ยมเจียระไน (Facet Edges): เนื่องจากเพชรมีความแข็งสูงสุดที่ระดับ 10 ตามมาตรวัดความแข็งของโมห์ (Mohs scale) ทำให้เหลี่ยมเจียระไนแต่ละเหลี่ยมมีความ "คมกริบดุจใบมีด" (Razor-sharp) และแทบจะไม่มีรอยบิ่นหรือรอยขูดขีดใดๆ หากพบว่าขอบเหลี่ยมมีความโค้งมน ไม่คมชัด หรือมีรอยถลอก อาจเป็นสัญญาณว่าไม่น่าจะใช่เพชรแท้

  • สภาพพื้นผิว (Surface Condition): ด้วยความแข็งระดับสูงสุด ทำให้พื้นผิวของเพชรทนทานต่อการขีดข่วนได้อย่างดีเยี่ยม พื้นผิวของหน้าเจียระไน (Facet) ควรจะเรียบสนิท ปราศจากรอยขีดข่วนโดยสิ้นเชิง

  • การไม่ซ้อนของเหลี่ยม (Absence of Doubling): นี่คือหนึ่งในเทคนิคสำคัญที่สุด เพชรเป็นอัญมณีที่มี "การหักเหของแสงแนวเดียว" (Singly Refractive) เมื่อมองผ่านหน้าเทเบิล (Table) ลงไปที่เหลี่ยมเจียระไนด้านล่าง (Pavilion facets) จะต้องเห็นขอบเหลี่ยมเป็นเส้นเดี่ยวที่คมชัด หากมองแล้วเห็นภาพขอบเหลี่ยมด้านล่างซ้อนกันเป็นสองเส้น (Doubling) หรือดูเบลอ นั่นคือคุณสมบัติของอัญมณี "การหักเหคู่" (Double Refraction) ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญที่ใช้แยกเพชรออกจากอัญมณีเลียนแบบยอดนิยมหลายชนิด


 

3. รู้จักอัญมณีเลียนแบบ: เทคนิคการเปรียบเทียบตามหลักสากล

การรู้จักคุณสมบัติของอัญมณีเลียนแบบ (Simulants) จะช่วยให้การแยกแยะเพชรธรรมชาติทำได้ง่ายขึ้น

  • คิวบิกเซอร์โคเนีย (Cubic Zirconia - CZ): แม้จะมีความวาวและประกายคล้ายเพชร แต่ CZ มีความแข็งน้อยกว่า (ประมาณ 8.5) ทำให้ขอบเหลี่ยมเจียระไนมักจะมีความคมน้อยกว่าและอาจพบรอยขูดขีดได้ง่ายกว่าเพชร และมีประกายรุ้งที่มากกว่าปกติ (Extreme Fire) การกระจายแสงสูงกว่าเพชร ทำให้เมื่อมองเทียบกันจะเห็นประกายสีรุ้งที่รุนแรงและมากกว่าเพชรอย่างเห็นได้ชัด

  • โมอีสซาไนต์สังเคราะห์ (Synthetic Moissanite): ถือเป็นอัญมณีเลียนแบบที่ใกล้เคียงเพชรที่สุดและอาจทำให้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์สับสนได้ แต่โมอีสซาไนต์มีจุดสังเกตคือ:

    • การหักเหคู่ที่รุนแรง (Strong Double Refraction): เมื่อมองผ่าน Loupe จะเห็นขอบเหลี่ยมด้านล่างซ้อนกันอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ขัดแย้งกับเพชรโดยสิ้นเชิง

  • คอรันดัมสังเคราะห์และสปิเนลสังเคราะห์ (Synthetic Corundum & Spinel): แม้จะมีความแข็งและความวาวที่ดี แต่ทั้งสองชนิดนี้มีการกระจายแสงที่ต่ำมาก ทำให้ขาด "ประกาย" ที่เป็นเอกลักษณ์ของเพชร

  • แก้ว (Glass): เป็นวัสดุที่แยกแยะได้ง่ายที่สุด เนื่องจากมีความแข็งต่ำเพียง 5.5 ตามมาตรโมห์ ทำให้มีรอยขีดข่วนได้ง่ายมาก ขอบเหลี่ยมจะมนและไม่คมชัด อีกทั้งยังมีความวาวและการกระจายแสงที่ต่ำกว่าเพชรอย่างเห็นได้ชัด จึงมักไม่ค่อยมีประกาย


การระบุเพชรธรรมชาติด้วยเทคนิคเบื้องต้นนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนและสร้างความคุ้นเคย การสังเกตความวาว ประกาย ความคมของเหลี่ยม และการตรวจสอบการหักเหของแสงผ่าน Loupe ล้วนเป็นทักษะพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อย่างไรก็ตาม สำหรับการประเมินผลที่แม่นยำและสมบูรณ์ 100% ควรได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญทางอัญมณีศาสตร์หรือสถาบันที่เชื่อถือได้ ซึ่งมีเครื่องมือขั้นสูง เช่น กล้องจุลทรรศน์และเครื่องวัดค่าดัชนีหักเห, เครื่องชั่ง ถ.พ., เครื่อง CVD SCREEN

สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคในการเลือกซื้อและครอบครองอัญมณีอันทรงคุณค่านี้ต่อไป

โพสที่เกี่ยวข้อง

เปล่งประกายอย่างยั่งยืน: จริยธรรมและอนาคตอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย | TGJTA

เปล่งประกายอย่างยั่งยืน: จริยธรรมและอนาคตอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย | TGJTA

บทวิเคราะห์เชิงลึกจาก TGJTA ถึงความสำคัญของจริยธรรมและความยั่งยืน (Ethics & Sustainability) ต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยในตลาดโลก และแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นให้แบรนด์ "Made in Thailand"

กฎหมาย ปปง. 2567: สรุปครบจบ! คู่มือสำหรับผู้ค้าอัญมณีและร้านทอง โดย TGJTA

กฎหมาย ปปง. 2567: สรุปครบจบ! คู่มือสำหรับผู้ค้าอัญมณีและร้านทอง โดย TGJTA

อัปเดตล่าสุด! สรุปกฎหมาย ปปง. 2567 สำหรับผู้ค้าอัญมณีและร้านทอง เข้าใจง่ายใน 5 นาที พร้อมวิธีส่งรายงานประเมินความเสี่ยงผ่าน AMRAC

GIA ตรวจสอบเพชร Motswedi เพชรใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก | ข่าวสาร TGJTA

GIA ตรวจสอบเพชร Motswedi เพชรใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก | ข่าวสาร TGJTA

สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ (TGJTA) เผยรายงาน GIA ตรวจสอบเพชรดิบ Motswedi น้ำหนัก 2,488.32 กะรัต เพชรประเภท IIa คุณภาพเยี่ยมจากเหมืองคาโรเว บอตสวานา