Logo
TH | EN

เจาะลึกเทรนด์ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับโลกไตรมาส 2 ปี 2025: โอกาสสำหรับผู้ค้าไทย

สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ (TGJTA) ขอสรุปภาพรวมและแนวโน้มที่น่าสนใจในตลาดอัญมณีและเครื่องประดับโลก สำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่สำคัญ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย สามารถวางแผนธุรกิจและเติบโตในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน

ภาพรวมตลาด: การเติบโตที่ยืดหยุ่นท่ามกลางความท้าทาย

แม้ว่าตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยส่วนบุคคลโดยรวมอาจเผชิญกับการหดตัว [1] แต่ตลาดเครื่องประดับ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องประดับชั้นดี (Fine Jewelry) ยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการเติบโตที่น่าสนใจ [2] โดยมีมูลค่าตลาดรวมในปี 2025 อยู่ที่ประมาณ 242.79 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องด้วยอัตราเฉลี่ย 5.10% ต่อปีไปจนถึงปี 2032 [3] สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าเครื่องประดับมีคุณค่าที่แข็งแกร่งในฐานะสินทรัพย์ที่มีความยืดหยุ่นในสายตาผู้บริโภค

 

เจาะลึกเทรนด์อัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญ

1. อัญมณีสังเคราะห์ (Lab-Grown Diamonds - LGDs)

ราคาอัญมณีสังเคราะห์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาขายส่งสำหรับเพชรขนาด 1-3 กะรัตลดลงถึง 42% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า [4] การลดลงของราคาทำให้อัญมณีเหล่านี้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงการโฆษณาอย่างตรงไปตรงมาว่า สิ่งที่นำมาใช้แทนเพชรแท้จากธรรมชาตินั้นคืออัญมณีสังเคราะห์ ไม่ใช่เพชร ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) [5] การสื่อสารที่โปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และป้องกันความเสียหายต่อตลาดการค้าในระยะยาว

การใช้อัญมณีสังเคราะห์อาจไม่ใช่ทางรอดของผู้ประกอบการเสมอไป แม้แต่บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอย่าง De Beers ก็ยังประกาศปิดแบรนด์ Lightbox ที่ทำตลาดเครื่องประดับอัญมณีสังเคราะห์ เพื่อกลับมามุ่งเน้นที่เพชรธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอัญมณีสังเคราะห์ยังคงมีความท้าทายอยู่มาก [6] ทั้งนี้ผู้ประกอบการจึงต้องเข้าใจถึงตลาดและความต้องการของผู้บริโภคซึ่งผู้บริโภคอัญมณีสังเคราะห์เป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มผู้บริโภคอัญมณีธรรมชาติ

2. พลอยสี (Colored Gemstones)

ความต้องการพลอยสีที่มีเอกลักษณ์พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะทับทิมและไพลิน [7] ผู้บริโภคและนักลงทุนมองหาพลอยสีหายาก เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนและสร้างความแตกต่าง [7] ผู้ค้าไทยควรให้ความสำคัญกับการคัดสรรอัญมณีสีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดเฉพาะกลุ่มนี้

3. เครื่องประดับเงินและแพลทินัม

  • เครื่องประดับเงิน: ยังคงเป็นที่ต้องการสูงจากกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่คำนึงถึงต้นทุนและตามแฟชั่น [8] โดยคาดว่าจะเติบโตด้วยอัตรา 10.5% ต่อปี [8] การที่ราคาเงินพุ่งสูงขึ้นในไตรมาสนี้ [9] ยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับเครื่องประดับเงินทั้งในแง่แฟชั่นและการลงทุน

  • เครื่องประดับแพลทินัม: ความต้องการแพลทินัมกำลังกลับมาในตลาดจีนอย่างมีนัยสำคัญ [10] เนื่องจากผู้บริโภคหันมามองหาทางเลือกแทนทองคำที่มีราคาสูง [10] นี่เป็นโอกาสสำหรับผู้ค้าไทยในการเจาะตลาดจีนด้วยเครื่องประดับแพลทินัมคุณภาพสูง

4. ไข่มุก (Pearls)

ตลาดไข่มุกคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยอัตรา 11.3% ต่อปี [11] เนื่องจากมีการนำไข่มุกมาใช้ในการออกแบบที่ทันสมัยและไม่จำกัดเพศมากขึ้น โดยเฉพาะไข่มุกบาโรกที่มีรูปทรงไม่สม่ำเสมอกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ผู้ประกอบการควรสำรวจการออกแบบที่หลากหลาย เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการเครื่องประดับไข่มุกที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร

 

ปัจจัยสำคัญและโอกาสในอนาคต

  • ความยั่งยืนและการจัดหาอย่างมีจริยธรรม: ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรมและความยั่งยืนมากขึ้น [7] แบรนด์ที่สามารถสื่อสารเรื่องแหล่งที่มาของอัญมณีและเครื่องประดับได้อย่างโปร่งใส จะได้รับความไว้วางใจและเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์

  • การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล: การลงทุนในเทคโนโลยี เช่น AR (Augmented Reality) สำหรับการลองเครื่องประดับเสมือนจริง และการตลาดบนโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งจำเป็นในการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่และยกระดับประสบการณ์การซื้อขายออนไลน์ [12]

  • การบริหารความเสี่ยง: ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภาษีนำเข้าที่เปลี่ยนแปลงไป [13] บังคับให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ด้านห่วงโซ่อุปทานอย่างรวดเร็ว การกระจายแหล่งที่มาของวัตถุดิบจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ

 

ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้ประกอบการไทย

เพื่อคว้าโอกาสในตลาดอัญมณีและเครื่องประดับโลก ผู้ประกอบการไทยควร:

  • กระจายความหลากหลายของผลิตภัณฑ์: นอกเหนือจากทองคำ ควรลงทุนในอัญมณีสังเคราะห์ อัญมณีสี และไข่มุก เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาด

  • ให้ความสำคัญกับจริยธรรม: นำมาตรฐานการจัดหาอย่างมีจริยธรรมมาใช้และสื่อสารให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจน

  • ลงทุนในดิจิทัล: สร้างประสบการณ์การซื้อขายออนไลน์ที่ทันสมัยและราบรื่น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ

  • สร้างความแตกต่างด้วยดีไซน์: เน้นการออกแบบที่มีเอกลักษณ์และสามารถปรับแต่งได้ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการแสดงออกถึงความเป็นตัวตน

หากผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวและนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยจะยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในเวทีโลกอย่างแน่นอน


แหล่งอ้างอิง:

  1. Rapaport. (URL: https://rapaport.com/news/luxury-segment-likely-to-contract-up-to-5-in-2025-bain/)

  2. Bain & Company. (URL: https://www.bain.com/insights/luxury-in-transition-securing-future-growth/)

  3. Fortune Business Insights. (URL: https://www.fortunebusinessinsights.com/jewelry-market-102107)

  4. Edahn Golan. (URL: https://www.edahngolan.com/lab-grown-diamond-wholesale-prices-drop-7-in-q2/)

  5. ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากฯ (พ.ศ. 2544) จากราชกิจจานุเบกษา: https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2544/E/034/8.PDF

  6. JCK. (URL: https://www.jckonline.com/editorial-article/de-beers-shuts-down-lightbox/)

  7. SICO International. (URL: https://www.sicointernational.com/post/2025-colored-gemstone-market-trends-ethics-and-sico-international-s-expertise)

  8. Polaris Market Research. (URL: https://www.polarismarketresearch.com/industry-analysis/jewelry-market)

  9. Nasdaq. (URL: https://www.nasdaq.com/articles/silver-price-update-q2-2025-review)

  10. World Platinum Investment Council (WPIC). (URL: https://platinuminvestment.com/supply-and-demand/platinum-quarterly)

  11. Arizton. (URL: https://www.arizton.com/market-reports/pearl-jewelry-market)

  12. Technavio. (URL: https://newsroom.technavio.org/online-jewelry-market-industry-analysis)

  13. S&P Global Market Intelligence. (URL: https://pages.marketintelligence.spglobal.com/GIA-2025-Big-Themes-Power-Plays-in-2025-CD-Request.html)

โพสที่เกี่ยวข้อง

ไม่พบข้อมูล กรุณารอการอัพเดต